ร้อยไหม เรื่องจริง หรือ นิยาย

Plan Thread Lift
การร้อยไหมแบบเกาหลีถูกนำเข้ามา 10 กว่าปีแล้ว เป็นการส่งออกวัฒนกรรมและเทคโนโลยีอย่างหนึ่งของเกาหลี ไหมเกาหลีมาหลายแบบทั้งแบบ เรียบ แบบ เงี่ยง(เงี่ยงปลา เงี่ยงคู่ 2 ทิศทาง 3D, 3D……12 D ฯลฯ) มีหลายขนาด เล็กใหญ่ สั่นยาว เทคนิคการร้อยก็แล้วแต่่ผู้ผลิตไหมจะสรรหา เป็นเครื่องหมายการค้าของตน ต่อมาก็มีไหมของยุโรปตะวันออก(Georgia) กลุ่ม ไหม Aptos ไหมกรวย เข้ามาแชร์ตลาดบ้าง หลายปีมานี้ก็มีคนเอาไหมอิตาลี มาใช้ และประชาสัมพันธ์ว่าดีกว่าแบบเก่าอย่างไร ก็เป็นเรื่องของการประชาสัมพันธ์กัน มีทั่งที่เป็นเรื่องจริง และเรื่องวาทกรรม วันนี้จะมาอธิบายในทางการแพทย์ ว่าการร้อยไหม ทำอะไรให้หน้าเต่งตึง ยกกระชับได้บ้าง อะไรที่มันทำไม่ได้ ต้องไปทำอย่างอื่นเช่นศัลยกรรม ………..

ไหมเรียบ เป็นไหมที่ไม่มีเงี่ยง จะเป็นไหมแบบที่ใช้เย็บแผลผ่าตัดทั่วไป(PDO/PDS) มีขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลาง0.02 mm -0.9 mm แต่ในการร้อยไหมยกกระชับทั่วไปจะใช้ไหมขนาด 30 G (0.2mm) -18G(0.9mm) . ยาว 3-10 cm.
วิธีการร้อยไหมเรียบ จะร้อยถักเนื้อเยื้อใต้ผิวหนัง (Subcutaneous tissue) เข้ากับหนังแท้ด้านล่างที่หนาตัวมีคอลลาเจนมาก เหมือนขัดแตะ หลังทำถ้าทำถูกวิธี ถูกตำแหน่ง ก็จะกระชับผิวหนังทันที หากเข็มโดนเส้นเลือด เส้นเลือดแตก จะบวม เขียวช้ำได้ หลังจากนั้น ร่างกายเกิดกระบวนการหายของเนื้อเยื้อ มีการสร้างพังผืดและคอลลาเจนมากขึ้น

ไหมเรียบร้อยเป็นแพ ไม่ยึดติดกับเอ็นหรือกระดูก ทำให้หน้าตึงได้บ้าง พอประมาณ ปรับรูปหน้าได้เล็กน้อย อย่าหวังมากไป อยู่ไม่นาน


Plain Thread Lift

ไหมเงี่ยงถ้าร้อยแบบไม่ยึดติดกับโครงสร้างที่เคลื่อนที่ไม่ได้หรือได้น้อย(Fixed Structures) เช่นกระดูก(bone) เยื้อหุ้มกระดูก(periosteum) หรือ เอ็น(tendon) ก็จะทำให้หน้าตึงแบบเดียวกับไหมเรียบ แต่มากกว่าบ้าง เพราะมีเงี่ยงยึดหนังแท้กับชั้นใต้ผิวหนังได้แน่นกว่า มีการเกิดพังผืดและคอลลาเจนมากกว่า

การร้อยไหมแบบไม่ผูกยึดแบบข้างต้น ใช้กับสาวๆหรือคนที่ผิวหย่อนน้อย

การร้อยไหมเกาหลี อิตาลี อเมริกา ยุโรป หากไม่ผูกยึดกับกระดูก เยื้อหุ้มกระดูก เอ็น ที่เคลื่อนที่ไม่ได้ หรือ เคลื่อนได้น้อย ก็ไม่มีหลักการเดียวกับการร้อยไหมด้วยไหมเรียบหรือไหม เงี่ยง แต่จะอยู่นานกว่า ตึงกว่า ยึดกระชับกว่า ขึ้นอยู่กับแพทย์ที่ทำมีความเข้าใจกลไกการทำ ยกกระชับใบหน้า Face Lifting อย่างไร งานนี้ฝีมือแพทย์สำคัญมากกว่า ไหม เสียอีกนะครับ