การฉีดใน 3 ชั้นคือ :
1 ชั้นหนังแท้ เมื่อฉีดเข้าไปใน เซลล์ของใยไฟเบอร์ที่มีคอลลาเจนและอีลาสติน จะทำให้ เส้นใยโครงสร้าง (Cyclosketeton structure) ที่ล้มลง ตั้งขึ้น รักษารูปร่างของเซลล์ให้ตั้งตรง ซึ่งจะดึงให้คอลลาเจนไฟเบอร์หดตัวตามมาด้วย เป็นผลให้ผิวหนังหดตัวทันที ได้รูปตามที่เราต้องการ หลังจากนั้นสองสัปดาห์ จะมีการกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนของหนังแทัมากขึ้น ผิวแข็งแรง แต่งตึง ริ้วรอยจางหายไป หน้าใสเนียนมากขึ้น

– ภาพแรกเป็น ภาพผิวหนัง ชั้นบนสุดเป็นชั้นหนังกำพร้า ใต้หนังกำพร้าจะเป็นหนังแท้
– หนังแท้ประกอบด้วย 2 ชั้น ชั้นเป็นส่วนใหญ่เป็นเส้นเลือดที่เลี่ยงผิวหนังแท้และหนังกำพร้า เรียกว่า Papillary dermis ขั้นใต้จะเป็นชั้นที่มีคอลลาเจนเป็นองค์ประกอบ ทำให้ผิวหนังแข็งแรง ยืดหยุ่นได้ดี เรียกว่า Reticular dermis ชั้นนี้มีความสำคัญในการทำให้ผิวหนังดูนุ่มนวล อ่อนวัย ไร้ริ้วรอย เมื่อมีอายุมากขึ้น แสงแดดทำลายคอลลาเจน อีกทั้ง อายุที่มากขึ้นทำให้มีการทำลายคอลลาเจน มากกว่าการสร้าง คอลลาเจน คอลลาเจนจึงลดลง ความยืดหยุ่นเสียไป เกิดริ้วรอย ขึ้นตามมา

– ภาพที่สอง เป็นภาพโครงสร้างของเซลล์และคอลลาเจนไฟเบอร์ในชั้นหนังแท้ Reticular dermis เซลล์หนังแท้จะเห็นเป็นสีฟ้าอยู่ด้านบน ภายในเซลล์ส่วนที่เรียกว่า Cytoplasm จะมีส่วนต่างๆมากมาย(organelles) ส่วนหนึ่งที่มีหน้าที่ในการรักษาโครงสร้างของเซลล์ คือ Cycloskeleton structure ซึ่ง Microfillament เป็นส่วนที่มีความสำคัญในการคงรูปร่างของเซลล์ เมื่อ อายุมากขึ้น หรือเมื่อได้รับแสง UV มากๆ Microfillament จะยืด เสียความยืดหยุ่น และ ไม่สามารถพยุงโครงสร้างของเซลล์ต่อไปได้ มีผลทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น บางลง เกิดริ้วรอยขึ้น

-ภาพที่สาม : เมื่อฉีด TripleLift BTA ในส่วนผสมพิเศษ เฉพาะตัวลูกค้า และเฉพาะตำแหน่งที่ฉีด เมื่อฉีดลงไปให้ถูกตำแหน่ง Reticular dermis จะทำให้ Microfillament หดตัวทันที เป็นผลให้มีการดึงคอลลาเจนของผิวหนังให้หดสั้นลง หนาขึ้น ความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งแพทย์ผู้ทำ TripleLift จะเห็นทันที หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ การฉีด BTA ลงไปที่หนังแท้ จะทำให้เกิดการบาดเจ็บเล็กๆ ที่เรียกว่า Micro Injury ซึ่งจะทำให้เกิดกระบวนการหายของแผล Wound healing process และมีการสร้างคอลลาเจนมากขึ้น ไปเรื่อยๆ จนถึง 3-4 เดือน ทำให้ผิวหนังเต่งตึง ใสเนียน ริ้วรอยลดลง ดูเป็นหนุ่มสาวกว่าเดิม